วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

ออกกำลังกายลดความอ้วนกับ...ฮูลาฮูบ






         ฮูลาฮูบเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของตัวดิฉันค่ะ ดิฉันจะนำมันมาเป็นเครื่องออกกำลังกายของตัวดิฉันเองเพราะการออกกำลังกายด้วยการเล่นฮูลาฮูบเป็นสิ่งที่ดิฉันคิดว่าง่ายและสนุกสนานกับการออกกำลังกายไปด้วย แถมยังช่วยลดพุงได้ด้วย

          อุปกรณ์ : ดิฉันจะใช้ฮูลาฮูปที่มีน้ำหนักค่อยข้างมาก แต่คุณอาจใช้ฮูลาฮูปแบบธรรมดาทั่วไปก็ได้ แต่อาจจะไม่เห็นผลในแง่การออกกำลังอย่างชัดเจนค่ะ 

        ระยะเวลา : ประมาณ 30-40 นาที





   การออกกำลังกายด้วย ฮูล่าฮูป จะช่วยให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้ทำงาน การไหลเวียนโลหิตเพิ่มมากขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้น แถมยังช่วยให้เผาผลาญไขมันไปเป็นพลังงาน จึงช่วยให้ร่างกายมีน้ำหนักลดลง เพียงแค่เล่นฮูล่าฮูป 30 นาที ก็สามารถเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 200 แคลอรีเลยเชียวล่ะ

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

วิธีแก้ผิวแตกลายจากการลดความอ้วน

     เพื่อน ๆที่เคยอ้วน หรือเคยลดน้ำหนักกันบางคนมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับผิวแตกและลาย ดิฉันก็เปนอีกคนหนึ่งที่ผิวแตกลายจากการลดความอ้วน  ซึ่งส่วนใหญ่มักพบว่าเกิดจากน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วไม่ได้เกิดจากผอมแล้วอ้วนอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากจะป้องกันผิวแตกลายก็อาจทำได้โดยลดความอ้วนโดยที่ไม่ได้ทำให้ เนื้อเยื่อมีความยืดหยุ่นมากก่อน เช่น การออกกำลังบริหารกล้ามเนื้อก็จะช่วยแก้ปัญหาที่จะเกิดนี้ได้ เพราะเมื่อคุณผอม กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะหดตัวลงตามไม่ทัน ทำให้ มีรอยเหี่ยวและแตกลายแตกเป็นริ้วๆขึ้น ซึ่งมักจะเจอบ่อยในบริเวณ ผิวสะโพก น่อง หน้าท้อง และเต้านม ปัญหานี้จะไม่เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนผิวขาว แต่ในคนผิวคล้ำหรือผิวสองสี จะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้กังวลใจมาก วิธีที่จะช่วยทำให้ดีขึ้นคือ คุณต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผิวทาเพื่อบำรุงผิวในจุดนั้นๆคะ

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

โยโย่เอฟเฟคจากการทานยาลดความอ้วน




           คนที่เกิดอาการ โยโย แอฟเฟคนี้ โอกาสที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บก็จะง่ายกว่าคนที่น้ำหนักคงที่ ดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยทานยาลดความอ้วนมากเกินจำนวน จนตอนนี้เกิดอาการโยโย แอฟเฟคค่ะ น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า หลังจากหยุดทานยาลดความอ้วน เพราะหลังจากหยุดทานยาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมทานอาหารได้มากขึ้น น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวค่ะ 

 วิธีแก้ไขโยโย่เอฟเฟค 

ทำได้โดยการออกกำลังกาย และ ควบคุมอาหาร เพราะการออกกำลังกายนี้จะช่วยลดผลร้ายที่มีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ที่เกิดจากการที่มีน้ำหนักที่ลดลง และทำให้น้ำหนักตัวคงที่ด้วย หากคุณคนไหนที่คิดจะกินยาลดความอ้วนโดยการกินยาลดความอ้วนว่าคุณจะต้องคิดไว้เสมอว่าเอาสุขวันนี้ แล้วจะมานั่งทุกข์ในวันข้างหน้าหรือ?สำหรับคนที่เจอ โยโย แอฟเฟค เข้าแล้ว สิ่งที่ต้องจำไว้ให้ดี คือ อย่าหวนคืนไปผิดเป็นครั้งที่สอง ที่สาม ที่สี่ ทางที่ถูกคือ หันมากินแบบเพื่อสุขภาพ และออกกำลังกายสม่ำเสมอคะ ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องใช้เวลาปรับตัวจาก โยโย แอฟเฟค บ้างแต่ให้ใจเย็นๆ คุณควรทานให้ครบทุกมื้อ ออกกำลังกายสม่ำเสมอและเมื่อเกิดโยโย แอฟเฟค อย่าพยายามลดครั้งใหม่โดยการกินอาหารแคลอรีต่ำๆอีกนะคะ

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เมื่ออ้วนแล้ว..ควรทำอย่างไร?


     การควบคุมอาหารที่จะไส่ปากไส่ท้อง และรวมไปถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะและจะต้องมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย  ลองตรวจสอบกันดูสิว่า เรารับประทานอาหารและเครื่องดื่มกันถูกต้องเหมาะสมแล้วยังไม่ทำให้เกิดเป็นโรคอ้วน มีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ


1.งดกินของทอด อาหารจำพวกทอดๆ ได้แก่ ไก่ทอด ลูกชิ้นทอด มันฝรั่งทอด และยังมีอีกหลากหลายเมนูทอดทั้งหลายที่ล้วนอุดมไปด้วยไขมัน ขอให้งดกินเด็ดขาด นอกจากจะจับตัวเป็นชั้นไขมันตามร่างกายแล้วยังก่อให้เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดอีกด้วย
2.เลิกกินกาแฟกับขนมปังมื้อเช้า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ร่างกายควรจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนมีประโยชน์มากกว่ากาแฟหนึ่งแก้วและขนมหนึ่งแผ่นต่อวัน
 3.กินผักผลไม้ให้ได้ทุกมื้อ ถ้าเป็นเป็นไปได้ควรกินผักและผลไม้สดๆให้ได้ครบทุกมื้อ เพราะผักและผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อุดมไปด้วยสารอาหารและใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักส่วนเกินอีกด้วย
4.ดื่มน้ำผักผลไม้ หากว่าการหาโอกาสกินผักผลไม้สดๆเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะการกินให้ได้ทุกมื้อและในจำนวนปริมาณที่มากๆ วิธีหนึ่งที่เป็นทางแก้ก็คือการดื่มน้ำผักผลไม้แทน โดยหาเครื่องสกัดน้ำผักผลไม้มาสกัดน้ำดื่ม จะได้ประโยชน์มากทีเดียวเพราะร่างกายจะดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้เร็วกว่าการรับประทานผักผลไม้สดๆ ถ้าไม่มีเครื่องสกัดน้ำผลไม้ เครื่องปั่นธรรมดาก็พอที่จะทำได้ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำผสมเข้าไป ปั่นแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่ม แต่มีข้อยกเว้นว่าต้องไม่เป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัด เพราะสามารถทำให้อ้วนได้เหมือนกัน
5.งดดื่มน้ำอัดลมโดยเด็ดขาด น้ำหวานน้ำอัดลมไม่จำเป็นจริงๆก็ขอให้งดดื่มโดยเด็ดขาดเพราะน้ำอีดลมประกอบไปด้วยน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ แล้วน้ำตาลส่วนเกินที่ได้รับจากการดื่มน้ำอัดลมก็จะไปสะสมในร่างกาย ทำให้กลายเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานในที่สุด
 6. อย่าปล่อยให้หิวมากเกินไป การปล่อยให้มีความรู้สึกหิวจนท้องไส้กิ่ว บิดไปบิดมา ไม่ว่าจะเป็นเพราะยอมอดเพื่อความผอมหรือไม่ได้อด แต่รู้สึกหิวจริงๆ ละก็ อย่าปล่อยให้รู้สึกหิวจนทรมานอย่างนั้น หาอะไรเป็นของว่างประเภทผลไม้ไม่มีรสหวานก็ได้ กินพอระงับความหิว เพราะถ้าปล่อยให้ตัวเองหิวจัดมากๆ พอถึงเวลากินอาหารแล้วจะกินมากกว่าเดิมเป็น 2-3 เท่าเชียว
 7.ลดปริมาณอาหารแต่ละมื้อ ขอย้ำว่าให้ลดปริมาณอาหารที่รับประทานแต่ละมื้อ เคยกิน 2 จาน ก็ให้เหลือ 1 จาน เคยกินจานโตๆ ก็ลดมาเหลือครึ่งจาน ไม่ใช่ให้อดอาหาร การอดอาหารจะทำให้ร่างกายอ่อนแอขาดภูมิต้านทาน และเมื่อกินมื้อต่อไป ร่างกายจะทำการสะสมเป็นไขมันเพื่อชดเชยมื้อที่อด
8.เคี้ยวอาหารให้ละเอียดอย่างช้าๆ คนที่กินอาหารด้วยความรวดเร็วจนเหมือนว่าไม่ได้เคี้ยวอาหารเล นอกจากจะทำให้กระเพาะทำงานหนักในการย่อยอาหารแล้ว ยังทำให้ท้องอืดและกินอาหารได้มากกว่าปกติ เพราะยิ่งกินเร็วก็เหมือนว่ากินได้น้อยและไม่อิ่มเสียที กว่าจะรู้สึกอิ่มก็แน่นท้องเสียแล้ว โดยปกติเราจะรับรู้ว่าอิ่มก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที กว่ากระเพาะจะส่งสัญญาณให้รับรู้ว่าอิ่ม คนที่กินเร็วๆ จึงมีโอกาสกินมากเกินความต้องการของร่างกาย
9.ดื่มน้ำก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำสัก 2 แก้วก่อนรับประทานอาหารไม่เกิน 30 นาที เพราะเมื่อมีน้ำอยู่ในกระเพาะ จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น แม้ว่าอยากกินก็กินต่อ

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อันตรายจากความอ้วน!!



1. ภาวะไขมันในเลือดสูง 
ซึ่งจะนำไปสู่ความผิดปกติของระบบอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อไขมันไปเกาะตามผนังหลอดเลือด
ก็จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและความดันโลหิตตามมาได้
2. ความดันโลหิตสูง
ซึ่งหากเป็นมาก ๆ อาจทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ถึงแก่ชีวิตหรือพิการ เป็นอัมพาตได้
3. โรคหัวใจและหลอดเลือด     
ซึ่งในปัจจุบันป็นสาเหตุของการตายอันดับหนึ่งของประเทศอุตสาหกรรมหรือประเทศที่พัตนาแล้ว รวมทั้งประเทศไทยด้วย เนื่องจากไขมันไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบหรืออุดตัน หัวใจทำงานเพิ่มมากขึ้น ถ้าเป็นกับเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจแล้ว ก็ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด และหัวใจวายถึงแก่ชีวิตได้

4. โรคเบาหวาน 
ซึ่งมักพบควบคู่กันเสมอในสภาวะที่เป็นโรคอ้วนอยู่ เมื่อเป็นเบาหวานแล้วมักเป็นแผลเรื้อรังไม่ค่อยหาย บางทีเป็นแผลกดทับในรายที่ต้องนั่งหรือนอนนาน ๆ ประกอบกับมีการเสี่ยงต่อการติดเชื้อราง่ายขึ้น เพราะมีการอับชื้น ของซอกแขนและซอกขามากกว่าปกติ

5. โรคข้อกระดูกเสื่อม   
โดยเฉพาะข้อเข่า และข้อเท้าเนื่องจากต้องรับน้ำหนักตัวมากเกินพิกัด บางคนที่อ้วนมาก ๆ อาจจะยืนหรือเดินไม่ได้เลย เพราะข้อเท้าไม่สามารถรับน้ำหนักได้ คุณคงไม่อยากเป็นอย่างนั้นใช่ไหม
6. โรคของระบบทางเดินหายใจ 
เนื่องจากในคนอ้วนมักมีการเคลื่อนไหวน้อย ชอบนั่งหรือนอนมากกว่า ปอดจึงขยายตัวไม่ได้เต็มที่ จึงทำให้เกิดภาวะการติดเชื้อของทางเดินหายใจได่บ่อยกว่าปกติ